สล็อตออนไลน์ โฆษกรัฐบาล ทำการเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งให้มีการดำเนินการเฝ้าระวัง ค่าฝุ่น ช่วงอากาศเปลี่ยน หลังพบ PM 2.5 เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ทั่ว กทม. (16 ธ.ค. 2564) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่ประสบปัญหา ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในบางพื้นที่ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังดูแลและป้องกันผลกระทบสุขภาพประชาชนที่เกิดจากฝุ่นละอองดังกล่าว โดยให้สำรวจและจัดทำทะเบียนกลุ่มเสี่ยงจาก PM 2.5 ในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี เตรียมพร้อมเปิดคลินิกมลพิษออนไลน์
จัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุข สถานที่มีกลุ่มเสี่ยง อาทิ ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ หรือบ้านเรือนประชาชน ขณะที่ กรุงเทพมหานครได้ดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการล้างทำความสะอาด ดูดฝุ่นถนน และฉีดล้างต้นไม้ พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับกองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก ขสมก. เพื่อเข้มงวดในการควบคุมการจราจร ด้วยการการตรวจวัดและห้ามใช้รถยนต์ควันดำ
ซึ่งคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล จะสะสมเกินมาตรฐานในช่วงระหว่างวันที่ 15-18 ธันวาคม 2564 และในช่วง 7 วันข้างหน้า มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในวันที่ 19-21 ธันวาคม เนื่องจากอากาศที่เปิดมากขึ้น อย่างไรก็ตามวันที่ 22-23 ธันวาคม อาจมีโอกาสที่ระดับฝุ่นละอองอาจสูงขึ้นอีก
สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร ตรวจวัดค่า PM 2.5 ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ได้ 34-63 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร พบว่ามีค่าดัชนีเกินจากมาตรฐาน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ใน จำนวน 19 พื้นที่ ได้แก่ ซึ่ง 7 พื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 สูงสุด ได้แก่
1. เขตลาดกระบัง : 63 มคก./ลบ.ม.
2. เขตหนองแขม : 60 มคก./ลบ.ม.
3. เขตทวีวัฒนา : 60 มคก./ลบ.ม.
4. เขตคลองสามวา : 57 มคก./ลบ.ม.
5. เขตตลิ่งชัน : 56 มคก./ลบ.ม.
6. เขตบางกอกใหญ่ : 56 มคก./ลบ.ม.
7. เขตวังทองหลาง : 56 มคก./ลบ.ม.
ขณะที่ภาคเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 17 – 40 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 18 – 44 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19 – 56 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 21 – 44 มคก./ลบ.ม. และ ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10 – 25 มคก./ลบ.ม.
ศบค. ปรับโซนสีโควิด ยกเลิกพื้นที่สีแดงเข้ม มีผล 16 ธ.ค.
ที่ประชุม ศบค. มีมติ ปรับโซนสีโควิด ยกเลิกพื้นที่สีแดงเข้ม หรือ พื้นที่ควบคุมสูงสุด ทั้ง 23 จังหวัด และจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้แถลงการผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
โดย นพ.ทวีศิลป์ ระบุว่าที่ประชุมได้ ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป ซึ่งการปรับพื้นที่สีมีดังนี้
พื้นที่สีส้ม จาก 23 จังหวัดเพิ่มเป็น 39 จังหวัด ประกอบด้วย ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร เชียงใหม่เชียงราย ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นราธิวาส ประจวบคีรีขันธ์ ปัตตานี ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา พัทลุง พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แม่ฮ่องสอน ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน สตูล สมุทรปราการ สมุทรสาคร สงขลา สระแก้ว สระบุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี อุดรธานี อุบลราชธานี
พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด หรื้อพื้นที่สีแดง จาก 24 จังหวัด ปรับขึ้นเป็น 30 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ กำแพงเพชร ชัยนาท ชัยภูมิ นครปฐม นครพนม นครสวรรค์ น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พิจิตร พะเยา แพร่ มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สมุทรสงคราม สิงห์บุรี สุโขทัย สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลาภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อ่างทอง อำนาจเจริญ
ขณะที่พื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัดกรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงา ภูเก็ต ทั้งนี้ พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว ให้ใช้มาตรการเช่นเดียวกับพื้นที่เฝ้าระวัง
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ยกเลิกพื้นที่ควบคุมสูงสุดจาก 23 จังหวัด เหลือ 0 จังหวัด